หลายคนคงเคยได้รับ fw mail มาแล้วเกี่ยวกับเรื่องของ หยุดทำร้ายลำไส้ด้วยโยเกิร์ต แต่รู้หรือไม่ว่าบทความที่เขียนขึ้น มีความเป็นจริงแค่ไหน เชื่อได้หรือไม่ หรือได้ยินแล้วก็เชื่ออย่างไม่ลืมหูลืมตา วันนี้จะมาพิสูจน์ ความลับของโยเกิร์ต

โยเกิร์ต เป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้จากนมซึ่งผ่านกรรมวิธีการหมัก ทำให้ได้รสเปรี้ยวและมีลักษณะกึ่งแข็งกึ่งเหลว ต้นกำเนิดของโยเกิร์ตอยู่ที่เทือกเขาคอเคซัสของรัสเซีย ในโยเกิร์ตจะประกอบด้วยแบคทีเรียหลักๆ 2 ชนิดด้วยกันคือ Streptococcus thermophilus และ Lactobacillus bulgaricus ซึ่งแบคทีเรียเหล่านี้จะทำปฏิกิริยาเปลี่ยนนมให้เป็นโยเกริ์ต นอกจากนี้ในปัจจุบันยังมีการเติมแบคทีเรีย Bifido และ Lactobacillus casei ในโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มคุณค่าทางอาหาร

สรุปแล้ว โยเกิร์ฺต น่าจะมีประโยชน์ แต่จากบทความที่เขียนไว้โดย นายแพทย์ บรรจบ ชุณหสวัสดิกุล จากมติชน สุดสัปดาห์ ในเรื่องของ หยุดทำร้ายลำไส้ด้วยโยเกิร์ต ที่บอกว่า การทำโยเกิร์ตสูตรน้ำผึ้งผสมมะนาว นั้นไม่ดี

  1. ความหวานจากน้ำผึ้งที่ใส่เข้าไป แคลอรี่จากน้ำผึ้ง คือแคลอรี่จากน้ำตาล การทานน้ำผึ้งไม่ได้ปลอดภัยกว่าการทานน้ำตาล ความหวานของน้ำผึ้งสามารถเปลี่ยนให้โปรตีนจับตัวเป็นก้อนขนาดแบคทีเรียในโปรตีนยังตายเมื่อเจอกับน้ำผึ้ง คนโบราณจึงมักใช้น้ำผึ้งทาแผลเปื่อยเพื่อฆ่าเชื้อโรค แต่ผลข้างเคียงก็คือทำให้เนื้อเยื่อบริเวณแผลเปลี่ยนสีและแปรรูปกลายเป็นแผลเป็น ส่วนคนจีนโบราณเค้าจะใช้น้ำผึ้งในการดองศพ น้ำผึ้งเข้มข้นสามารถดองเนื้อเยื่อได้
  2. โยเกิร์ต เป็นสิ่งบริโภคที่ไม่เหมาะกับคนเอเชีย เพราะโยเกิร์ตคือผลผลิตของนมวัว ซึ่งคนเอเชียร้อยละ 50 -80 แพ้โปรตีนในนม! สามารถทำให้เด็กแรกเกิดเป็นโรคภูมิแพ้ได้ ถึงแม้ว่าการทานโยเกิร์ตจะทำให้ถ่ายท้องได้คล่องก็จริงอยู่ แต่ผลข้างเคียงที่ตามมาล่ะ นั่นก็ขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาภูมิแพ้ของคนนั้นๆ หากคุณมีอาการแพ้นมวัว โปรตีนนมวัวก็จะทำให้เยื่อบุลำไส้ระคายเคือง เซลล์เยื่อบุเกิดอาการบวมน้ำ
    จึงปล่อยสารคัดหลั่งออกมา ขับถ่ายเป็นน้ำเหลวๆ ออกไป ถ้าปล่อยให้ระคายเคืองซ้ำๆ อยู่อย่างนั้น ก็จะทำให้ภูมิต้านทานคุณปรวนแปร
    จากแค่อาการแพ้ธรรมดาๆ ก็สามารถพัฒนาการเป็นลมพิษ ผื่นคัน ไปจนถึงหอบหืด และร้ายแรงที่สุกก็คือ โรคลำไส้เรื้อรัง
  3. ท้องผูกต้องแก้ด้วยไฟเบอร์ ต้องทานอาหารพวกเส้นใยอาหารให้มาก การทานโยเกิร์ตผสมน้ำผึ้งมะนาวไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด
    มีเคสตัวอย่างที่น่าสนใจอยู่เคสหนึ่งของคุณหมอบรรจบ เมื่อคนไข้ท่านหนึ่งซึ่งเป็นคนที่ใส่ใจสุขภาพ ทานข้าวกล้อง ทานผัก ทานปลา ตามแบบไทย จนผลตรวจเลือดของเธอเมื่อ 2 เดือนก่อนที่เธอจะเปลี่ยนวิธีทานนั้น นับได้ว่าเลือดของเธอสวยมาก ไร้ไขมัน สิ่งตกค้างใดใด สะอาดหมดจดจริงๆ แต่เมื่อ 2 เดือนให้หลัง หลังจากที่เธอหันมาทานโยเกิร์ตเพื่อช่วยแก้ปัญหาท้องผูก ปรากฎว่าผลเลือดของเธอมีคราบไขมันที่กำลังจะจับตัวเป็นก้อน รวมกันอยู่เป็นกลุ่มๆ ไขมันในเลือดสูง เป็นสาเหตุหนึ่งของโรคคลอเรสเตอรอลสูงได้

อันตรายจากโยเกิร์ต

ทีนี้มาวิเคราะห์ว่าจริงหรือไม่กับบทความข้่างต้น ที่ว่า คนเอเซียไม่เหมาะกับโยเกิร์ต ไม่เป็นความจริง เพราะโยเกิร์ตในสมัยก่อน มีตำนานกล่าวว่า เจงกิสข่าน จอมนักรบมองโกล ก็ใช้โยเกิร์ตเป็นอาหารเลี้ยงกองทัพของเขา เพราะมีคุณสมบัติช่วยให้มีสุขภาพแข็งแรง ทั้งนี้ หากผู้ที่ไม่มีอาการแพ้นมวัวก็สามารถทานได้ตามปกติ การนำน้ำผึ้งมาเป็นส่วนผสมจะช่วยในระบบย่อยและการรักษาลำไส้ได้เป็นอย่างดี เพราะในน้ำผึ้งมีน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ร่างกายสามารถย่อยได้ทันที และการทานน้ำผึ้งแทนน้ำตาลเป็นประจำไม่ทำให้เป็นโรคคลอเรสเตอรอลสูง

การรักษาแผลด้วยน้ำผึ้ง เหตุผลที่น้ำผึ้งมีสรรพคุณสมานแผลได้ดี ก็เนื่องมาจากความเข้มข้นของน้ำผึ้ง จะทำให้เชื้อโรคฝ่อตาย ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่ว่า สิ่งที่มีความเข้มข้นกว่า (เช่น น้ำผึ้ง) จะดูดสารน้ำจากสิ่งที่เข้มข้นน้อยกว่า (เช่น เชื้อโรค) ดังที่ภาษาหมอเรียก ว่า osmotic pressure

เรื่องนี้แพทย์แห่งคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี เคยทำวิจัยพิสูจน์ว่าสามารถใช้น้ำผึ้งรักษาแผลผ่าตัดหน้าท้องได้ผลเป็นอย่างดี

โยเกิร์ตกับน้ำผึ้ง

กลับมาที่โยเกิร์ต กับน้ำผึ้ง การทานน้ำผึ้งไม่ได้มีส่วนช่วยในการระบาย แต่ โยเกิร์ตจัดเป็นผลิตภัณฑ์ประเภท probiotics ซึ่งหมายถึงอาหารที่ประกอบด้วยจุลินทรีย์ที่ยังมีชีวิตซึ่งเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากสามารถปรับสมดุลของเชื้อจุลินทรีย์ในลำไส้ของผู้บริโภค ผลิตภัณฑ์ประเภท probiotics นอกจากโยเกิร์ตแล้ว ยังได้แก่ นมเปรี้ยว ผักดอง คีเฟอร์

ดังนั้นหากต้องการทำให้ลำไส้สะอาด และดูแลสุขภาพลำไส้ของคุณ ทานโยเกิร์ต แต่ไม่ควรมีส่วนผสมของน้ำผึ้ง เนื่องจากน้ำผึ้ง จะไปทำให้แบคทีเรียในโยเกิร์ตสลาย การทานโยเกิร์ตผสมน้ำผึ้งไม่ได้ช่วยให้ร่างกายมีสุขภาพดีแล้วยังทำให้มีผลร้ายตามมาด้วย เพราะหน้าที่แต่ละอย่างของส่วนผสม มีความขัดกันโดยสิ้นเชิง

เคล็ดลับสุขภาพที่เกี่ยวข้อง

เคล็ดลับสุขภาพดี

การนอนน้อย ทำให้ แก่ มากขึ้น

นอนน้อยทำให้แก่มาก ตัดทอนอายุให้ส้ันลงไปได้ มากถึง 7 ปี ไม่ว่าหญิงหรือชาย หากได้นอนวันละไม่ถึง 6–8 ชม.

เคล็ดลับสุขภาพดี

ประโยชน์ และโทษ ของข้าวไรซ์เบอร์รี่

ใครว่าข้าวไรซ์เบอร์รี่ มีประโยชน์อย่างเดียว เรื่องจริงของมันคือ มีโทษต่อร่างกายด้วย

เคล็ดลับสุขภาพดี

ป้องกันโรคหัวใจ ทำได้ไม่ต้องรอแก่

หัวใจ ถือเป็นอวัยวะที่สำคัญที่สุดพอๆ กับสมองของเรา ถ้าหัวใจทำงานหนักเกินไป อาจทำให้เกิดภาวะต่างๆ ตามมาในภายหลัง เช่น หัวใจล้มเหลว

เคล็ดลับสุขภาพดี

ปัญหากลิ่นปากและการป้องกัน

ผู้หญิงที่มี กลิ่นปาก นับเป็นปัญหาหนึ่งที่สร้างความกังวลใจและความรู้สึกไม่มั่นใจให้แก่บรรดาสาวๆ ได้อย่างมาก

โรคภัยไข้เจ็บ

Chocolate cyst ซีสต์ในรังไข่

ใครเคยเป็น Chocolate cyst หรือ ซีสต์ในรังไข่ บ้างยกมือขึ้น คงเป็นอีกอาการสำหรับสาวๆ ที่ไม่อยากจะมีอาการแบบนี้ แต่ส่วนใหญ่เป็นกันมาก

ลดและควบคุมน้ำหนัก

ลดน้ำหนักกับสูตร Diet Low Fat ปลอดภัยแค่ไหน

การลดน้ำหนักหลายๆ สูตร ไม่ว่าจะเป็น Diet, Low Fat, Sugar Free เหล่านี้ หรือแม้แต่เรื่องวิธีการและกรรมวิธีในการลดน้ำหนักแบบต่างๆ นั้น คุณจะรู้ได้อย่างไรว่า วิธีไหนปลอดภัย การลดอาหารปลอดมัน ไม่ทานอาหารหวาน