ผู้ป่วยที่มีอาการโรคหัวใจขาดเลือด หรือโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดนั้น มักแตกต่างกันในผู้ป่วยแต่ละราย เช่น เจ็บกลางหน้าอกบริเวณเหนือลิ้นปี่ขึ้นมาเล็กน้อย เจ็บแบบจุกแน่น คล้ายมีอะไรมาบีบหรือกดทับไว้
ซึ่งอาการเจ็บมักร้าวไปที่คอหรือขากรรไกรหรือไหล่ซ้ายมักเป็นมากขณะออกกำลังกายหรือทำงาน เป็นอยู่นานครั้งละ 2-3 นาที อาการจะดีขึ้นถ้าได้หยุดพัก หรืออมยาขยายหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจ บางคนอาจมีอาการจุกแน่นลิ้นปี่เหมือนอาหารไม่ย่อย บางคนอาจมีอาการใจสั่น หอบเหนื่อย ร่วมด้วย แต่ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นอันตรายอย่างยิ่ง
บุคคลที่มีชื่อเสียงหลายคนแล้วที่ต้องเสียชีวิตด้วยโรคนี้ เนื่องจากเกิดภาวะของกล้ามเนื้อหัวใจทำงานหนักและขาดเลือด ทำให้เลือกไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อหัวใจส่วนต่างๆ ได้น้อยลง ทำให้เกิดหัวใจวายตามมาในภายหลัง ทั้งๆ ที่ผู้ป่วยเองอาจมีร่างกายแข็งแรง เป็นนักกีฬา หรือแม้แต่ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นโรคหัวใจได้เลย แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้เป็นโรค
ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคนี้ มักจะมีพฤติกรรมการทานอาหารหวาน อาหารที่มีไขมัน กะทิ รวมทั้งไข่แดง เป็นประจำ ทำให้มีการสะสมไขมันในหลอดเลือด ก่อให้เกิดแผ่นคราบไขมันตามมา ทั้งยังขาดการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การออกกำลังกายที่ดีจะต้องเป็นกิจกรรมที่ทำให้หัวใจได้สูบฉีดเลือดอย่างถี่และบ่อย อย่างน้อยครั้งละ 20 นาที หรือสัปดาห์ละ 3 ครั้ง กิจกรรมใดๆ ที่ได้แค่เหงื่อไม่เป็นผลดีต่อหัวใจเลยและควรเพิ่มระยะเวลาและเพิ่มความถี่ในการออกกำลังกายให้บ่อยขึ้น ให้หัวใจได้เต้นแรงและสูบฉีดเลือดได้ดีขึ้น
ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ เพราะในบุหรี่มีสารนิโคตินและสารอื่นๆ ที่จะทำอันตรายต่อผนังบุด้านในหลอดเลือด การสูบบุหรี่ ยังทำให้หลอดเลือดหัวใจหดตัว ที่สำคัญการนอนพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่เครียดกับงานควรทำสมาธิหรือฟังเพลงเบาๆ ก็จะช่วยผ่อนคลายหัวใจให้ทำงานได้ดีขึ้น
การปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
- รับประทานยาตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด และมาตรวจตามนัดทุกครั้ง
- รับประทานผัก ผลไม้และดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 2-3 ลิตร
- รับประทานอาหารแต่พออิ่ม และควรพักหลังอาหารประมาณ 1/2-1 ชั่วโมง
- ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และการออกกำลังกายที่ดีที่สุด คือการเดิน เริ่มโดยการเดินช้า ๆ ก่อนแล้วค่อยๆ เพิ่มระยะทาง แต่อย่าให้เกินกำลังตนเอง
- ทำจิตใจให้สงบ หาโอกาสพักผ่อน และหาวิธีลดความเครียด หลีกเลี่ยงสิ่งที่ทำให้ตื่นเต้น เช่น การดูเกมการแข่งขันที่เร้าใจ
- หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงและเค็มจัด
- งดดื่มสุรา น้ำชา กาแฟ และหลีกกเลี่ยงการสูบบุหรี่
- หลีกเลี่ยงงานหนัก งานรีบเร่ง และงานที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องนานๆ
- เมื่อมีอาการเจ็บหน้าอก ให้หยุดกิจกรรมนั้น ๆ ทันทีและอมยาใต้ลิ้น 1 เม็ด ถ้าอาการยังไม่ทุเลาลงให้อมยาใต้ลิ้นซ้ำได้อีก 1 เม็ด ห่างกัน 5 นาที แต่ไม่ควรเกิน 3 เม็ด หากอาการไม่ดีขึ้นใน 15-20 นาที ให้รีบไปพบแพทย์ได้ทันที
- การมีเพศสัมพันธ์ไม่ควนหักโหม ควรอมยาใต้ลิ้นก่อนมีเพศสัมพันธ์ ถ้ามีอาการใจสั่น หายใจขัด หรือเจ็บหน้าอกนานเกิน 15 นาทีหลังมีเพศสัมพันธ์ ควรปรึกษาแพทย์
โรคหัวใจขาดเลือด ป้องกัน และรักษาได้ เพียงแค่ไม่ทำตัวให้เสี่ยงต่อโรค ควบคุมน้ำหนักไม่ให้อ้วน โดยใช้วิธีออกกำลังกายและรับประทานอาหารที่ถูกต้อง เช่น งดขนมหวาน ผลไม้รสหวานจัด เพราะหัวใจของคนอ้วนต้องทำงานมากกว่าปกติ และตรวจเช็คสุภาพอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง แต่ถ้ามีอาการเจ็บแน่นหน้าอกเป็นๆ หายๆ ควรปรึกษาแพทย์
เคล็ดลับสุขภาพที่เกี่ยวข้อง
เคล็ดลับความงาม
บำรุงผิวด้วย เบต้าแคโรทีน ชะลอความแก่
เราพบว่าผิวพรรณทั่วไปส่วนใหญ่ของผู้หญิงและเด็กในวัย 2 เดือน – ขวบปีแรก จะเป็นส่วนของร่างกายที่ดีที่สุด
ปัญหาหนังศีรษะ
บำรุงเส้นผมบนหนังศีรษะ
เรื่องสำคัญสำหรับทุกคนส่วนหนึ่งไม่ใช่มีรูปร่างหน้าตาที่ดูดีแล้ว เส้นผมบนศีรษะ ก็ควรจะดูดีและเงางามเช่นกัน หากเป็นเชื้อสายของคนเอเซีย โดยเฉพาะคนไทยแล้ว เส้นผมที่มีก็ควรจะเป็นสีดำตามเผ่าพันธุ์ ถ้ามีการโกรกผม ย้อมผม เปลี่ยนสีเป็นสีอื่นๆ
เคล็ดลับความงาม
แต่งสวยรับลมหนาว
หน้าหนาวที่ใกล้จะถึงนี้ บรรดาสาว ๆ ได้แต่งตัวสวยเก๋กันแบบไหนนะ เปิดตัวเตรียมต้อนรับฤดูกาลใหม่แห่งความสวย
เคล็ดลับผิวสวยใส
อยากผิวสวยต้องห้ามกิน
แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังทั่วไปมักจะแนะนำชายหญิงทั้งหลายว่า ถ้าอยากจะรักษาผิวพรรณให้ผ่องใส ดูเป็นหนุ่มสาวอยู่เสมอ
สุขภาพเต้านม ทรวงอก
ปรับพฤติกรรมการกิน ลดความเสี่ยงมะเร็งเต้านม
ขึ้นชื่อว่า มะเร็ง ก็ไม่มีใครอยากเป็นและไม่มีใครอยากจะพบเจอ แต่ในยุคปัจจุบันนั้น ความเสี่ยงทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตในแบบประจำวันของสังคมเมือง
เคล็ดลับสุขภาพดี
อาหารดำ ดีต่อสุขภาพ
สำหรับ เคล็ดลับสุขภาพ ในวันนี้ ขอนำเสนอ สุดยอด อาหาร เพื่อสุขภาพ ที่เป็นธัญพืชสีดำและรวมถึงของกินสีดำที่ถือว่า ดีต่อสุขภาพที่สุด