เสี่ยงมะเร็งเต้านมกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

จริงหรือไม่สำหรับเรื่องนี้ที่ว่า ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ทำสาวเสี่ยงมะเร็งเต้านม 2 เท่า

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อล่ะค่ะว่า ผู้หญิงที่รักความสะอาดด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในบ้านบ่อยๆ จะมีอัตราเสี่ยงในการเป็นมะเร็งเต้านม มากกว่าผู้หญิงที่ไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ มากขึ้นเป็น 2 เท่า

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในบ้านเพิ่มความเสี่ยงมะเร็ง

เรื่องนี้พิสูจน์โดย ดร.จูเลีย บรอดี้ จากสถาบัน Silent Spring ในสหรัฐอเมริกา ได้ทำการศึกษาจากกลุ่มตัวอย่างผู้หญิง 1,500 คน พบว่า ผู้หญิงที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในบ้าน จำพวกกำจัดเชื้อรา กำจัดแมลง ก้อนหอมปรับอากาศบ่อย ๆ มีแนวโน้มเป็นมะเร็งเต้านมสูงกว่าปกติ 2 เท่า เมื่อเทียบกับผู้หญิงที่ไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว

โดย ดร.จูเลีย อธิบายว่า สาเหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะว่า ในผลิตภัณฑ์ประเภทนี้บางชนิด มีสารเคมีที่ก่อให้เกิดมะเร็งที่ต่อมน้ำนมเป็นส่วนประกอบอยู่ รวมถึงสารรบกวนฮอร์โมนต่าง ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวการสำคัญของโรคมะเร็งด้วย ทั้งนี้ ดร.จูเลีย ยังได้แนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดอย่างง่าย ๆ เช่น สบู่ น้ำ เบกกิ้งโซดา น้ำส้มสายชู รวมทั้งเลือกผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีน้ำหอมเป็นส่วนประกอบในการทำความสะอาดแทน

อย่างไรก็ตาม ผลการศึกษานี้ยังไม่ได้ฟันธงว่าต้องเป็นเช่นนี้ทุกกรณี ดังนั้นจึงต้องมีการศึกษาเพิ่มเติม เพื่อระบุหาชื่อสารเคมีที่แน่ชัด ที่ทำให้ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้นต่อไป

งานวิจัยชี้รักสะอาดเกินไป ระวังไว้มะเร็งเต้านมถามหา

งานศึกษาเตือนผู้หญิงที่พิถีพิถันอยากให้บ้านสะอาดและมีกลิ่นหอมตลอดเวลา อาจเพิ่มโอกาสในการเป็นโรคมะเร็งเต้านมโดยไม่รู้ตัว นักวิจัยชี้คนที่ใช้น้ำหอมปรับอากาศและโฟมกำจัดเชื้อราจากกระเบื้องในห้อง น้ำมากที่สุด มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นที่จะเป็นโรคดังกล่าว นี่เป็นการศึกษาครั้งแรกที่เชื่อมโยงผลิตภัณฑ์ที่ใช้กันเป็นประจำในครัวเรือนมากมาย กับโรคที่เป็นภัยร้ายของผู้หญิง

นักวิจัยสอบถามผู้ป่วยมะเร็งเต้านมและผู้หญิงสุขภาพดีที่มีอายุใกล้เคียงกัน เกือบ 800 คน ว่าใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและยาฆ่าแมลงบ่อยแค่ไหน ซึ่งพบว่าคนที่ใช้สเปรย์ปรับอากาศมีแนวโน้มเป็นมะเร็งเต้านมเพิ่มขึ้น 20% และถ้าใช้เป็นประจำทุกวันความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้น 30%

รายงานในวารสารเอนไวรอนเทนทัล เฮลท์ยังระบุว่า ความเชื่อมโยงดังกล่าวยิ่งชัดเจนขึ้นกับน้ำยาปรับอากาศที่มีความเข้มข้น โดยผู้ใช้ผลิตภัณฑ์นี้จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นเท่าตัว ผลิตภัณฑ์กำจัดเชื้อราเพิ่มโอกาสเป็นโรคดังกล่าวเช่นกัน แม้ไม่พบความเชื่อมโยงกับผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเตาและพื้นผิวก็ตาม

งานวิจัยชิ้นนี้ที่จัดทำโดยสถาบันไซเลนต์ สปริงในแมสซาชูเสตส์ สหรัฐฯ ซึ่งเป็นองค์กรที่มุ่งศึกษาความเชื่อมโยงของสารเคมีกับสุขภาพสตรีนั้น ระบุว่าในการศึกษากับสัตว์ พบสารประกอบหลายอย่างที่เชื่อมโยงกับมะเร็ง ซึ่งรวมถึงกลิ่นชะมดปลอมที่ใส่ในน้ำยาปรับอากาศและผงซักฟอกเพื่อให้กลิ่นหอมขึ้น

อย่างไรก็ตาม นักวิจัยตั้งข้อสังเกตว่า การค้นพบนี้อาจถูกบิดเบือนจากผู้ป่วยที่กำลังมองหาแพะรับบาปสำหรับปัญหา สุขภาพของตน ซึ่งเรียกว่าอคติจากการลืม และอาจทำให้ผู้ป่วยดังกล่าวประเมินปริมาณและความถี่ในการใช้น้ำหอมปรับอากาศ และผลิตภัณฑ์กำจัดเชื้อราของตัวเองขณะที่ยังมีสุขภาพดีมากเกินไป

ข้อมูลที่สนับสนุนข้อสังเกตนี้คือ การพบว่าผู้ป่วยมะเร็งมีแนวโน้มคิดว่าสารเคมีเป็นสาเหตุของโรคมากกว่าผู้หญิงสุขภาพดี

ด้วยเหตุนี้ นักวิจัยจึงเชื่อว่าควรมีการศึกษาเพิ่มเติม โดยดร.เคทลิน พัลฟราแมน จากเบรกทรู บรีสต์ แคนเซอร์ ระบุว่าการศึกษานี้ไม่ได้แสดงเหตุผลที่น่าเชื่อถือ แต่อิงกับความจำในอดีตของกลุ่มตัวอย่างในการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ซึ่งบ่งชี้ว่าผู้หญิงระบุว่ามีการใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นในปริมาณมาก เพราะคิดว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างผลิตภัณฑ์ดังกล่าวกับมะเร็งเต้านมโดยพัลฟราแมนได้กล่าวว่า “การศึกษาเบรกทรู เจเนอเรชัน ที่ติดตามผลผู้หญิง 100,000 คนนานถึง 40 ปี น่าจะให้คำอธิบายที่ชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับสาเหตุของโรคนี้”

ฟิลิป มัลพาสส์ จากสมาคมอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดแห่งสหราชอาณาจักร สำทับว่าผู้บริโภคควรมั่นใจว่า สารเคมีที่ถูกระบุว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งถูกห้ามใช้ในผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด

“เราเห็นด้วยกับนักวิจัยที่ยอมรับว่า ผลการศึกษาอาจมาจากอคติจากการลืมเกี่ยวกับการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด”